Search
Close this search box.

ทุเรียนไร้หนาม

ทุเรียนไร้หนาม

     หากให้นึกภาพทุเรียนสิ่งที่หลายคนนึกออกย่อมเป็น “หนาม” ที่เป็นเหมือนเอกลักษณ์ของผลไม้แสนอร่อยถูกใจใครหลายๆ คนนี้ แต่ขั้นตอนการที่จะได้รับประทานมันกลับยากยิ่งกว่าผลไม้ไหนๆ และเพราะความโดดเด่นเหล่านี้ทำให้ทุเรียนนั่งแท่นกลายเป็นราชาของมวลผลไม้ไป แต่จะมีใครคาดคิดบ้างไหมว่า…ถ้าทุเรียนไม่มีหนามนั่นจะเป็นเช่นไร?

     หน้าตาจะเป็นแบบไหน? แล้วรสชาติละจะเป็นอย่างไร? จะเปลี่ยนไปแบบหน้าตาหรือเปล่า?

     คำตอบเหล่านี้กำลังจะถูกค้นพบที่เมืองลับแลถิ่นทุเรียนเมืองเหนือชื่อดังที่มีทุเรียนราคาแพงอย่างพันธุ์หลงลับแลและพันธุ์หลินลับแล และตอนนี้ชาวสวนที่นั้นได้หยิบเอานวัตกรรมเก่ามาใช้จากในอดีต นั้นคือ “ทุเรียนไร้หนาม” แนวคิดและไอเดียที่ไม่เหมือนใครของคุณเสรี สุกสา ชาวสวนทุเรียนเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์

     จากกระแสหือฮาเมืองปี 2561 ในโลกโซเชียลจนสื่อหลายสำนักพิมพ์ต้องออกลงพื้นที่เพื่อสอบถามถึงที่มาที่ของเจ้าทุเรียนไร้หนามนี้ แล้วก็ได้รับคำตอบจากเจ้าของไอเดียว่าแนวคิดนี้เคยมีการทำมาแล้วในรุ่นพ่อเมื่อ 30 ปีก่อน แต่เพราะผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่าจึงทำให้ทุเรียนไร้หนามในอดีตไม่ถูกพัฒนาต่อมาในปัจจุบัน สุดท้ายก็ไม่เป็นที่จดจำใดๆ ของผู้คนในยุคนั้น ทว่าในยุคสมัยที่สื่อเข้าถึงประชาชนมากขึ้นจึงทำให้เกิดกระแสนี้ขึ้นมาจนทำให้ประชาชนคาดหวังที่จะได้ลิ้มชิมรสของเจ้าทุเรียนไร้หนามนี้

     เบื้องต้นทางคุณเสรี สุกสาได้ออกมาลงคลิปไว้ว่าเจ้าทุเรียนไร้หนามนี้นั้นปอกง่ายและรสชาติยังคงเดิม แต่ผลผลิตที่ได้ยังไม่มาก พร้อมทั้งการันตีว่าในปี 2562 นี้ประชาชนจะได้ลิ้มชิมรสเจ้าทุเรียนไร้หนามนี้อย่างแน่นอน ซึ่งรสชาติจะเป็นแบบไหนนั้นในหน้าทุเรียนปี 2562 นี้คงได้รู้กันค่ะ

     ส่วนเกษตรกรคนไหนที่คิดอยากปลูกทุเรียนไร้หนามนี้บ้าง ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ทุเรียนที่ตัดต่อทางพันธุกรรม แต่เป็นการตัดหนามออกตั้งแต่ทุเรียนยังเป็นผลเล็ก แล้วทำการเลี้ยงดูอุ้มชูให้ผ่านโรคร้ายต่างๆ ที่จะเข้าทำลายได้ง่ายด้วยความใส่ใจ เพราะงั้นแล้วชาวสวนทุเรียนคนไหนที่อยากจะได้ทุเรียนไร้หนามนี้บ้างคงต้องเพิ่มความใส่ใจมากเป็นพิเศษกันค่ะ แต่หากใครอยากปลูกแบบไร้หนามเลย ในต่างประเทศอย่างฟิลิปปินส์มีเจ้าพันธุ์ไร้หนามนี้แล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำยืนยันจากที่ไหนว่ามีการนำเข้ามาปลูกในไทยและประสบผลสำเร็จ ใครอยากลองเป็นรายแรกคงต้องไปเสาะหาพันธุ์มาลองปลูกกันเองแล้ว

 

ขอบคุณภาพจาก ผู้จัดการอนนไลน์ (MGR Online)